
ถ้าพูดถึงบริษัทเกมในปัจจุบัน ภาพในหัวของหลายคนคงแตกต่างกันไป บ้างก็นึกถึงบริษัทเกมระดับ Top 3 อย่าง Nintendo, Microsoft, หรือ Sony บ้างก็นึกถึง Publisher ยักษ์ใหญ่ที่อยู่ในวงการมาอย่างยาวนาน แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าวงการเกมในปัจจุบันนั้นกว้างใหญ่ไพศาลกว่าในอดีตมาก และกลายเป็นสื่อบันเทิงที่ทำเงินมากที่สุดในโลก แซงหน้าทั้งภาพยนตร์ เพลง และหนังสือไปแล้ว การพัฒนาของวงการเกมนี่เองที่ทำให้เกิดค่ายเกมน้องใหม่มากมาย และหนึ่งในค่ายเกมที่กำลังมาแรงในตอนนี้ ผู้พัฒนาเกมมือถือ Multi Platform ชื่อดัง ก็คงหนีไม่พ้นค่ายเกมที่รักเราอย่าง MiHoYo (มิโฮโยะ) เจ้าของคอนเซ็ปต์ "โอตาคุกู้โลก" ที่โดนใจเหล่าเกมเมอร์ทั้งรุ่นเก่าและรุ่นใหม่

เรื่องราวความสำเร็จของ miHoYo
- ย้อนรอยสู่จุดเริ่มต้น
- จากแพชชั่นในหอเรียน สู่ธุรกิจพันล้าน
- ก้าวแรกในวงการเกม
- โอกาสและความท้าทาย
- FlyMe2theMoon และการดิ้นรนเพื่อความอยู่รอด
- Houkai Gakuen (Zombiegal Kawaii) สู่ความสำเร็จ
- Houkai Gakuen 2 (Guns Girl Z) และโมเดลกาชา
- Honkai Impact 3rd: ก้าวสู่เกม 3D เต็มรูปแบบ
- Miyoushe และการเติบโตของทีม
- Tears of Themis: เกมสำหรับเกมเมอร์หญิง
- Genshin Impact: เกม Open-World ระดับ AAA
- N0va Desktop: โปรแกรมเสริมตกแต่งหน้าจอ
- HoYoverse: การรีแบรนด์เพื่อตลาดโลก
- Honkai: Star Rail: สู่โลก Turn-Base RPG
- Zenless Zone Zero : แอ็กชัน RPG โลกยุคปัจจุบัน ผสมผสานความเร็วและสไตล์
- บทสรุป: จาก Passion สู่ความสำเร็จระดับโลก
ย้อนรอยสู่จุดเริ่มต้น
ย้อนกลับไปเมื่อประมาณ 10 ปีก่อน อุตสาหกรรมเกมถูกครอบงำโดยประเทศชั้นนำเพียงไม่กี่ประเทศ ถ้าคิดเร็วๆ ก็คงเป็นประเทศญี่ปุ่น แดนอาทิตย์อุทัย ผู้ผลิตเกมที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวมากมาย หรือสหรัฐอเมริกา ประเทศต้นกำเนิดวิดีโอเกม ส่วนประเทศเล็กๆ ที่พอจะมีบริษัทเกมดังๆ บ้างก็มีอย่างโปแลนด์ กับ CD Projekt Red (ซีดี โปรเยกต์ เรด) ผู้สร้าง The Witcher หากมองภาพรวมของบริษัทเกมเหล่านี้ เราจะเห็นได้ว่าพวกเขามีพื้นฐานทางวัฒนธรรมที่ค่อนข้างชัดเจน โดยเฉพาะญี่ปุ่น ที่เป็นเจ้าแห่ง Pop Culture ในปัจจุบัน
คำถามที่หลายคนสงสัยกันมานานคือ แล้วประเทศที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลกในแง่ของพื้นที่ และเป็นอันดับ 2 ของโลกในแง่ของการเติบโตของเศรษฐกิจอย่างจีนล่ะ? ถ้าโดดเข้ามาในวงการเกมแล้วจะสร้างแรงกระเพื่อมขนาดไหน? ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา เราแทบไม่เห็นประเทศนี้เข้ามามีส่วนร่วมกับวงการเกมเท่าไหร่ ถึงแม้ว่าวัฒนธรรมของจีนบางอย่างจะเข้ามาโลดแล่นอยู่ในวงการเกมบ้างแล้วก็ตาม ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือ "หม่าจง" หรือ "เกมไพ่นกกระจอก" ที่เป็นวัฒนธรรมที่ถูกควบรวมกับญี่ปุ่น แม้ต่อมาจะมีบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Tencent ปรากฏตัวขึ้น แต่ก็เน้นไปที่การเป็น Publisher และซื้อบริษัทเกมมากกว่าจะเป็นผู้ผลิตเอง

จากแพชชั่นในหอเรียน สู่ธุรกิจพันล้าน
ในช่วงที่ Tencent กำลังก่อร่างสร้างตัว ก็เป็นช่วงเวลาเดียวกันกับที่หนุ่มจีน 3 คน ได้เปลี่ยนแพชชั่นในหอเรียนให้กลายเป็นธุรกิจวิดีโอเกมหลายพันล้านดอลลาร์ ย้อนกลับไปในปี 2010 ที่มหาวิทยาลัย Shanghai Jao Tong (เซี่ยงไฮ้ เจียวทง) คณะ Computer Science เด็กหนุ่มสามคนได้แก่ Cai “Hugh” Haoyu (ไค ฮิวจ์ ห่าวหยู), Liu “Forrest” Wei (หลิว ฟอเลสต์ เหว่ย) และ Luo Yuhao (หลัว หยูห่าว) ได้มารู้จักกัน
สิ่งที่ผูกพันพวกเขาทั้งสามให้แน่นแฟ้นยิ่งกว่าเพื่อนกลุ่มอื่นๆ คือวัฒนธรรม ACG (อนิเมะ, มังงะ และเกม) พวกเขาเป็นกลุ่มเพื่อนที่พบเห็นได้ทั่วไปตามมหาวิทยาลัย แต่สิ่งที่แตกต่างคือพวกเขาได้ทำงานโปรเจ็กต์ร่วมกันหลายโปรเจ็กต์ หนึ่งในนั้นคือ "FreeWriting" เว็บไซต์คอมมูนิตี้ให้ผู้คนมาสร้างสรรค์ผลงาน Light Novel คล้ายเกมบนเว็บ โดยใช้ Adobe Flash ให้ผู้เล่นแก้ไขตัวละครและฉากออนไลน์เพื่อแบ่งปันกับผู้อื่น
ในปี 2009 พวกเขานำเว็บไซต์นี้ไปประกวดในงาน Technology Innovation Competition และได้รับรางวัลเหรียญเงิน พร้อมเงินทุนเริ่มต้น 200,000 หยวน (ประมาณ 1 ล้านบาทในขณะนั้น) พวกเขาเลือกหัวข้อที่ถนัด นั่นคือ "วิดีโอเกม" แต่แทนที่จะใช้อุปกรณ์ที่คนอื่นสร้าง พวกเขากลับเลือกที่จะสร้าง Engine ของตัวเองขึ้นมา สำหรับเกม Tile Base Isometric แบบ 2.5D ที่ประหยัดทรัพยากรคอมพิวเตอร์ แต่ยังคงใส่เอฟเฟค 3 มิติเข้าไปได้ พวกเขาตั้งชื่อ Engine นี้ว่า "Misato2D Engine" โดยได้แรงบันดาลใจมาจากอนิเมะเรื่อง Evangelion ที่พวกเขาทั้งสามคนชื่นชอบ

ก้าวแรกในวงการเกม
หลังจากพัฒนา Engine สำเร็จ พวกเขาได้ออกตามหาทุนสร้างเกม และได้ยื่นข้อเสนอกับบริษัทเกมหลายแห่งในจีน แต่ด้วยขนาดของอุตสาหกรรมเกมในจีนขณะนั้น ทำให้ทุกบริษัทปฏิเสธไอเดียของพวกเขา แต่พวกเขาก็ไม่ยอมแพ้ เริ่มทำเกมด้วยทุนที่ได้มา และลงแข่งขัน China Game Developers Conference ครั้งที่ 2 (CGDC) ในปี 2010 ด้วยเกม "Legend of Saha (ซาฮา)" เกม Tile Base Isometric 2.5D บน Flash Player โดยมีไอเดียจากอนิเมะเรื่อง Evangelion
เกม Legend of Saha (ซาฮา) ให้ผู้เล่นรับบทเป็น Misei Nanatsuki (มิเซอิ นานะสึกิ) หญิงสาวที่ความจำเสื่อม และออกเดินทางตามหาชิ้นส่วนวิญญาณของเธอ 13 ชิ้น ที่ถูกผนึกไว้ในสถานที่ต่างๆ บนสรวงสวรรค์ ตัวเกมเป็นเกม Isometric 2.5D Platforming ที่ผู้เล่นต้องบังคับมิเซอิเดินหลบสิ่งกีดขวาง และมีความสามารถในการกระโดด ป้องกัน รวมถึงมีหลอดเลือดและสเตมิน่าให้บริหาร
พวกเขาคว้ารางวัลชนะเลิศในวิทยาเขต และได้รับเงินรางวัล 30,000 หยวน จาก Shanda Games แม้กระแสของเกม Legend of Saha จะไม่สามารถวัดได้แน่ชัด แต่ก็พอมีวิดีโอบนเว็บไซต์จีนอยู่บ้าง ซึ่งเกมแฟลชนั้นไม่ได้สร้างเม็ดเงินให้กับผู้สร้างมากนัก
โอกาสและความท้าทาย
หลังจากนั้น Shanda Games ได้เสนองานให้พวกเขาช่วยสร้างเกม "Bubble Hero" เกมชูตติ้งออนไลน์ 4 ต่อ 4 มุมมองบุคคลที่สาม ที่ค่อนข้างได้รับความนิยมในจีนระดับหนึ่ง
เมื่อความมั่นใจเริ่มมา พวกเขาจึงตัดสินใจก่อตั้งบริษัท "MiHoYo" ในเดือนมกราคมปี 2011 โดยชื่อบริษัทมาจาก "Hatsune Miku" (Mi) และชื่อของ Haoyu กับ Yuhao เติม O สองตัว (HoYo) ตาม Tech ระดับโลกอย่าง Facebook, Google, Microsoft พวกเขายังคงเรียนต่อ และใช้เวลาว่างสร้างเกมในหอพักนักศึกษา
[ภาพ: ออฟฟิศ miHoYo]
Liu Wei (หลิว เหว่ย) นำแนวทางของบริษัทไปเข้าร่วมการแข่งขัน New Entrepreneur Talent Competition และคว้ารางวัลอันดับสาม ได้พื้นที่ทำออฟฟิศขนาด 50 ตารางเมตร ฟรี 6 เดือน ซึ่งถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ เพราะค่าเช่าพื้นที่ขนาดนั้นสูงถึง 1 แสนหยวน (ประมาณ 5 แสนบาทต่อเดือน)

FlyMe2theMoon และการดิ้นรนเพื่อความอยู่รอด
เกมแรกในนามทีมพัฒนาเกมอินดี้คือ "FlyMe2theMoon" นำชื่อเพลงปิดของ Evangelion มาตั้งชื่อเกม เกมนี้ให้ผู้เล่นพาตัวละคร Kiana Kaslana บินฝ่าปริศนาต่างๆ ไปบนดวงจันทร์ ตัวละครนี้ออกแบบโดย Zhang Qinghua (จาง ชิงฮวา) นักศึกษาคณะศิลปะและการออกแบบ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีกวางตุ้ง
เกมเปิดให้เล่นบน App Store วันที่ 28 กันยายน 2011 แต่ทำรายได้เพียงน้อยนิด แทบจะบอกได้ว่ารอวันเจ๊ง พวกเขาได้เงินเดือนเพียง 4,000 หยวนต่อเดือน (ประมาณ 2 หมื่นบาท) Liu Wei (หลิว เหว่ย) พยายามหานักลงทุน แต่กระแสวิดีโอเกมและอนิเมะในจีนตอนนั้นยังไม่เป็นที่นิยม ทีมพัฒนาที่เต็มไปด้วยนักศึกษาจบใหม่ถือว่ามีความเสี่ยงสูง

Houkai Gakuen (Zombiegal Kawaii) สู่ความสำเร็จ
จนกระทั่งบริษัท Hangzhou Skye ตกลงให้เงินทุน 1 ล้านหยวน (ประมาณ 5 ล้านบาท) การลงทุนแบบนี้เรียกว่า "Angel Investment" คือการลงทุนของคนหรือบริษัทที่มีทุนสูง เลือกลงทุนกับบริษัทเล็กๆ ที่มีศักยภาพในการเติบโต และคาดหวังให้บริษัทเหล่านั้นสร้างกำไรในอนาคต
หลังได้เงินทุน บริษัท Shanghai miHoYo Network Technology จึงก่อตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการ วางตัว Cai Haoyu (ไค ห่าวหยู) เป็นประธาน ใช้สโลแกน "Tech Otakus save the world" จ้างพนักงานเพิ่ม รวมถึง Zhang Qinghua (จาง ชิงฮวา)
เกมแรกในนามบริษัทคือ "Houkai Gakuen" หรือ "Zombiegal Kawaii" เกม Side-Scrolling Shooter แรงบันดาลใจจาก Highschool of the Dead พัฒนาด้วย Unity และ Autodesk Maya เปิดให้เล่นปลายปี 2012 ให้ผู้เล่นบังคับ Kiana Kaslana ยิงซอมบี้ มีการอัพเกรดอาวุธ ตัวเกมมีภาพลักษณ์เป็นญี่ปุ่นอย่างมาก เพราะพัฒนาโดยโอตาคุ

Houkai Gakuen 2 (Guns Girl Z) และโมเดลกาชา
ในปี 2014 miHoYo เห็นโมเดลการสร้างรายได้จากเกม "Puzzles & Dragons" เกมมือถือเกมแรกที่ทำรายได้ทะลุหลักพันล้านเหรียญสหรัฐฯ จึงนำ Houkai Gakuen มาพัฒนาต่อ ใส่ระบบกาชา อีเว้นท์ต่างๆ จนกลายเป็น "Houkai Gakuen 2" หรือ "Guns Girl Z"
ด้วยภาพอาร์ตที่เป็นเอกลักษณ์ เจาะตลาดคนชอบอนิเมะ ทำให้เกมติดอันดับ Top 10 Grossing ในจีน มีการขยายจักรวาลเกม เพิ่มเนื้อเรื่อง มี PV อนิเมะ แม้มีปัญหาทางเทคนิคช่วงแรก แต่ทีมพัฒนาที่มีเพียง 7 คน แก้ปัญหาโดยจ้างผู้เล่นมาเป็นพนักงาน

Honkai Impact 3rd: ก้าวสู่เกม 3D เต็มรูปแบบ
หลังความสำเร็จของ Gun Girl Z, miHoYo วางแผนสร้าง "Honkai Universe" คล้าย Remedy Connected Universe จึงสร้างเอนจิ้นเกมใหม่ เน้นระบบฟิสิกส์ของตัวละคร และก้าวสู่เกม 3D เต็มรูปแบบ ศึกษา 3D cel-shading จาก Guilty Gear Xrd ระบบการต่อสู้ได้แรงบันดาลใจจาก Bayonetta และ Devil May Cry
เกมที่สามคือ "Honkai Impact 3rd" การแปลงจาก 2D เป็น 3D ไม่ง่าย แค่โมเดล Kiana Kaslana ก็กินเวลา 6 เดือน พวกเขาจึงโละทุกอย่างทิ้งและสร้างใหม่ตั้งแต่ต้น
Honkai Impact 3rd เปิดให้เล่นปี 2016 ที่จีน ก่อนขยายไปทั่วโลกในปีถัดมา เนื้อเรื่องอยู่ในโลกยุคใหม่ที่ถูกพลังงาน "ฮงไก" รุกราน ผู้เล่นนำหน่วยต่อต้าน "วาลคีเรีย" สาวผู้มีพลังต่อต้านฮงไก นำโดย Kiana Kaslana ต่อสู้กับหายนะฮงไก
ระบบการเล่นเป็น hack and slash ใส่สกิลโจมตีศัตรู นำตัวละครลงทีมได้ 3 ตัว เล่นได้ครั้งละ 1 ตัว แต่ละตัวมีธาตุต่างกัน เกมบอกว่าศัตรูแพ้ทางหรือไม่ โจมตีทำคอมโบได้เรื่อยๆ มีสกิลให้เรียกอีกตัวละครมาโจมตี ผสมกับระบบกาชา ทำให้เกมเป็นที่ฮือฮา
เกมดังจนมีผู้เล่นในญี่ปุ่นจำนวนมาก มียอดดาวน์โหลดทะลุ 1 ล้านครั้งใน 11 วัน Honkai Impact 3rd ยังเปิดให้เล่นอยู่ มีเนื้อเรื่องมากมายจนเป็นจักรวาล Honkai

Miyoushe และการเติบโตของทีม
จากทีมพัฒนา 7 คน ในปี 2018 เพิ่มเป็น 200 คน อายุเฉลี่ย 29 ปี miHoYo เน้นกลุ่มคนอายุน้อย ในปี 2018 สร้างเว็บบอร์ด "Miyoushe (หมี่ โหยว เช่อ)" ใช้พูดคุย ประกาศความเคลื่อนไหว มีเครื่องมือจำลองการใส่ไอเทม

Tears of Themis: เกมสำหรับเกมเมอร์หญิง
ปี 2019 ประกาศเปิดตัว "Tears of Themis" และ "Genshin Impact" Tears of Themis เจาะกลุ่มเกมเมอร์หญิง เป็นเกมแนวสืบสวน มีตัวละครหนุ่มหล่อมากมายสไตล์โอโตเมะเกม ผู้เล่นเป็นหญิงสาวในสำนักกฎหมาย ว่าความสู้คดี มีคดี ลูกค้ามาจ้างให้ช่วยเหลือ วิธีเล่นคือเล่นตามเนื้อเรื่อง มีบทสนทนา สืบหาหลักฐาน พยาน ดวลการ์ด

Genshin Impact: เกม Open-World ระดับ AAA
"Genshin Impact" พัฒนาตั้งแต่ปี 2017 โค้ดเนม Honkai 4th เป็นเกม Open-World เกมแรก แรงบันดาลใจจาก The Legend of Zelda: Breath of the Wild งบพัฒนา 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ใช้ Unity ลงทั้งมือถือ คอมพิวเตอร์ คอนโซล เล่นแบบ cross-platform ได้
เกมเป็น MMORPG ให้ผู้เล่นออกสำรวจ พบเหตุการณ์แบบสุ่ม มีระบบภารกิจ ระบบการต่อสู้ กราฟิกอนิเมะ
Genshin Impact เปิดตัวปี 2020 เป็นเกม Open World Action RPG ผู้เล่นเป็นนักเดินทางที่ถูกแยกจากคู่แฝด ส่งมายังโลก Teyvat ต้องตามหาคู่แฝด มี Paimon เป็นคู่หู พบเหตุการณ์ต่างๆ บนโลก Teyvat ที่มีประเทศ เทพปกครอง
ระบบการเล่นเป็น Third Person Openworld มีของให้เก็บ การต่อสู้เป็น Hack And Slash คล้าย Honkai Impact 3rd สลับตัวได้ 4 ตัว การต่อสู้อิงจากพลังงานธาตุ มีระบบกาชา
เกมได้รับผลตอบรับดี ดาวน์โหลดถล่มทลาย คุณภาพระดับ AAA เล่นฟรี สายฟรีเล่นจนตันได้ มีเสียงพากย์ 4 ภาษา แปล 15 ภาษา มีภาษาไทย
miHoYo โด่งดังไปทั่วโลกหลัง Genshin Impact แม้มีดราม่าว่าเหมือน The Legend of Zelda: Breath of the Wild แต่ตอนนี้เป็น Genshin Impact เต็มตัว ไม่ใช่เกม Clone
Genshin Impact เป็นเกมเด่นของ miHoYo มีผู้เล่นมหาศาล ทำเงินให้ miHoYo มากที่สุด มีการรีแบรนด์ Miyoushe เป็น HoYoLAB
N0va Desktop: โปรแกรมเสริมตกแต่งหน้าจอ
miHoYo สร้างโปรแกรมเสริมตกแต่งหน้าจอ "N0va Desktop" ใช้ได้ทั้งคอมและมือถือ เปลี่ยน Wallpaper เป็นภาพขยับ ชูเด่นด้วยตัวละคร Lumi มีตัวละครจากเกมต่างๆ

HoYoverse: การรีแบรนด์เพื่อตลาดโลก
ปี 2022 รีแบรนด์เป็น "HoYoverse" ดำเนินการโดย Cognosphere Pte บริษัทย่อยในสิงคโปร์ ตีความว่าเพื่อขจัดปัญหาข้อกำหนดเกี่ยวกับวิดีโอเกมในจีน

Honkai: Star Rail: สู่โลก Turn-Base RPG
ปี 2023 เปิดตัว "Honkai: Star Rail" เกม Turn-Base RPG โลกอวกาศไซไฟ มี "เทพดารา" "เทพดารา" แห่ง "การทำลายล้าง" แพร่ "Stellaron"
ตัวละครหลัก The Trailblazer มี "Stellaron" ในร่างกาย ขึ้นรถไฟ "Astral Express" เดินทางข้ามดวงดาว
ระบบการเล่นเป็น Turn Base ตัวละครและศัตรูรอตาเพื่อดำเนินการ เลือกโจมตีหรือช่วยเหลือเพื่อนร่วมทีม มี 4 ตัวละคร มี Base Attack / Skill และ Ultimate ใช้แต้มทักษะ ชาร์จพลัง Ultimate มีระบบพลังธาตุ มีตัวละครให้เปิดหา

Zenless Zone Zero : แอ็กชัน RPG โลกยุคปัจจุบัน ผสมผสานความเร็วและสไตล์
"Zenless Zone Zero" เกมแอ็กชัน RPG Urban Fantasy เปิดตัวปี 2022 ทดสอบหลายครั้ง เรื่องราวอยู่ในโลกอนาคตที่เผชิญภัยพิบัติ Hollow มิติที่เปลี่ยนสภาพแวดล้อม มีสสารอีเทอร์ที่เปลี่ยนมนุษย์เป็นสัตว์ประหลาด
ปราการด่านสุดท้ายคือ New Eridu มีหน่วยสำรวจ H.I.A รับมือ Hollow มี Hollow Raider หรือ Agent เข้าไปใน Hollow เอง ต้องมี Bangboo นำทาง ใช้แผนที่ "แครอท"
ผู้เล่นเป็นพี่น้อง Wise หรือ Belle โค้ดเนม “Phaethon” เจาะระบบให้ Hollow Raider แก๊ง Cunning Hares ที่มี Anby, Nicole, Billy ไปขโมยตู้เซฟ ตกไปใน Hollow Nicole ไปหา “Phaethon” ให้ช่วย
ระบบการเล่นแบ่งเป็นสองส่วนชัดเจนคือส่วนในเมืองกับส่วนใน Hollow การเล่นในเมืองก็ครบทุกอย่างครับ ซื้อของ ขายของ อัพเกรด เปิดกาชา Agent ต่างๆ ส่วนใน Hollow ก็จะเป็นเหมือนด่านให้เราลงไปเล่นไม่ว่าจะตามเนื้อเรื่องหรือฟาร์มของต่างๆ ตัวเกมเป็น Hack and Slash ที่สับเปลี่ยนตัวละครได้เหมือนกับ Genshin Impact หรือ Honkai Impact 3rd แต่สิ่งที่แตกต่างไปเลยสำหรับเกมนี้คือความเร็วของเกมที่เร็วกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัดและเกมนี้เน้นไปที่การ Parry เป็นหลักทำให้การต่อสู้นั้นรวดเร็วและ non-stop มันส์สะใจอย่างมาก ด้วยแรงบันดาลใจที่ทีมงานนำมาจากเกม Street Fighter 6 เพื่อให้การต่อสู้นั้นรู้สึกมีน้ำหนัก และทำคอมโบได้ต่อเนื่องเหมือนเกมต่อสู้ และอีกอย่างที่ดูเหมือนทีมงานจะเน้นมากกว่าเดิมคือเรื่องเพลงประกอบที่หลายๆ เพลงนั้นติดหูเป็นอย่างมากให้อารมณ์คล้ายกับซีรี่ส์ Persona เลยก็ว่าได้หรือแม้แต่ UI ของเกมก็ให้กลิ่นอายคล้ายๆ เช่นกัน และแน่นอนงานภาพสไตล์อนิเมะที่เป็นเอกลักษณ์สวยงาม ตัวละครแต่ละตัวออกแบบตามสไตล์ของคนรัก Culture แบบญี่ปุ่น และพร้อมที่จะลงมาเป็นตู้กาชาให้เราได้เปิดกัน เราจะได้บังคับเป็นสามตัวละครที่สามารถสับเปลี่ยนไปมาได้ตลอดเวลา
บทสรุป: จาก Passion สู่ความสำเร็จระดับโลก
จะเห็นได้ว่าบริษัท miHoYo นั้นจุดเริ่มต้นนั้นก็เกิดมาจาก Passion อันแรงกล้าของนักศึกษาจบใหม่เพียงแค่ 3 คนเท่านั้นที่อยากจะริเริ่มทำสิ่งใหม่ๆ ที่พวกเขาชอบ ถึงแม้ช่วงนั้นวิดีโอเกมหรือกระแสทางด้านอนิเมะจะไม่ได้เป็นที่นิยมในจีนเท่าไหร่นัก แต่ความเป็นโอตาคุของเขาที่ไม่ยอมแพ้และมุ่งเป้าไปที่การทำสิ่งที่พวกเขารักก็แสดงผลในเวลาต่อมา รวมถึงนักลงทุนที่มองเห็นศักยภาพของ miHoYo มอบเงินทุนก้อนโตให้ก็ถือเป็นการเสี่ยงที่คุ้มค่า เพราะปัจจุบันประเทศจีนกับวิดีโอเกมนั้นก้าวขึ้นมาโชว์ลวดลายให้ชาวโลกได้เห็นอย่างมากมายและหลายๆ เกมก็ออกมาดีมากๆ อีกด้วย ซึ่ง miHoYo เองก็พูดได้เต็มปากว่าพวกเขาเป็นหนึ่งในบริษัทเกมจีนแรกๆ ที่ปลุกกระแสให้ชาวจีนสนใจในวิดีโอเกมและการพัฒนาเกมมากขึ้นก็ว่าได้ครับ