Lossless Scaling
Frame Gen คืออะไร
ในปัจจุบันผมว่าหลายๆคนน่าจะคุ้นเคยกับเทคโนโลยีที่มากับการ์ดจอที่เรียกว่า Frame Generation กันไม่น้อยแล้วใช่ไหมครับที่ใช้ AI มาเป็นตัวช่วยในการเพิ่มเฟรมเรทในการเล่นเกม แต่ก็จะมีข้อจำกัดคือ Frame Generation ของแต่ละค่ายไม่ว่าจะเป็น NVIDIA หรือ AMD จะต้องใช้การ์ดจอรุ่นที่กำหนดเท่านั้นไม่สามารถใช้ได้ทั้งหมดได้ แต่แล้วมันก็มีโปรแกรมตัวหนึ่งที่ชื่อว่า Lossless Scaling มาขจัดปัญหาตรงนี้ครับ

Lossless Scaling คืออะไร!?
Lossless Scaling เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้คุณสามารถ ขยายเกมที่เล่นในโหมดหน้าต่าง (Windowed Mode) ให้เต็มจอ โดยใช้เทคโนโลยีการปรับสเกลภาพ (Scaling) รวมไปถึงเทคโนโลยีการสร้างเฟรมภาพ (Frame Generation) ที่ใช้ Machine Learning เข้ามาช่วย เหมาะสำหรับเกมเก่าๆที่การตั้งค่าตกยุคหรือสำหรับคอมพิวเตอร์ที่ไม่ค่อยแรงในการดันเฟรมเรทให้สูงขึ้น

โหลดได้ที่ไหน!?
Lossless Scaling เป็นซอฟต์แวร์เสียเงินที่วางขายอยู่บน Steam ในราคา 155 บาท

การตั้งค่าแต่ละอย่างคืออะไรบ้าง และต้องใช้อะไร!?
Scaling (Type/Mode)
คือการใส่การ Upscaling ลงไปในเกมโดยจะมีรูปแบบให้เลือกมากมายไม่ว่าจะเป็น LS1 ที่เป็นของทีมพัฒนาเอง, NIS ของทาง NVIDIA, FSR ของทาง AMD หรือใครที่จะนำไปเล่นกับเกมที่ภาพกราฟิกแบบอนิเมะก็จะมีรูปแบบ Anime4K ให้เลือก ตรงนี้ต้องลองเลือกใช้ทีละอันดูว่าแต่ละคนถูกใจอันไหนหรือจะไม่ใช้ก็ได้เช่นกัน ส่วนตรง Mode แนะนำให้ปรับเป็น Auto เพราะโปรแกรมจะตั้งค่าที่ดีที่สุดให้เราอัตโนมัติครับ
Frame Generation
อันนี้คือพระเอกของโปรแกรมเลย ยิ่งตอนนี้ถ้าใครอัพเดตเป็นโปรแกรมเวอร์ชั่นล่าสุดตัวเฟรมเจนของ Lossless ได้อัพเดตขึ้นไปเป็นเวอร์ชั่น 3.0 แล้ว ซึ่งก็แนะนำให้ใช้เวอร์ชั่นนั้นไปเลยครับเพราะดีที่สุดแล้ว ส่วนโหมดจะมีให้เลือก 4 อย่างคือ X2 , X3 และ X4 และ Custom ซึ่งก็คือตามชื่อเลย เป็นการทวีคูณเฟรมเรทที่เราเล่นอยู่เข้าไป เช่นถ้า FPS ที่เราเล่นอยู่ที่ 60 ถ้าเปิด X2 ก็จะได้ FPS ที่ 120 ถ้าเปิด X3 จะได้ที่ 180 และ X4 ที่ 244 ประมาณนี้ ส่วนแบบ Custom เราก็สามารถเพิ่มการทวีคูณขึ้นไปได้อีกมากสุดถึง X20 เลยทีเดียว ฟังแล้วอาจจะคิดว่าอย่างงี้ก็ไม่ต้องซื้อมันแล้วการ์ดจอใหม่ใช่ไหมครับ ไม่ใช่ครับ เพราะถ้ายิ่งปรับให้ทวีคูณเยอะ ค่า Latency ก็ยิ่งสูงตามนั่นเอง กล่าวง่ายๆก็คือเกมจะมีช่วงเวลาดีเลย์หลังจากที่เรากดปุ่ม เลื่อนเมาส์ หรือทำอะไรก็ตาม ระดับที่แนะนำคือ X3 ครับที่เขามีการปรับปรุงให้ Latency ลดลงมาเยอะแล้ว
Resolution Scale
ส่วน Resolution Scale ทางผู้พัฒนา Lossless Scaling แนะนำมาให้ปรับตามนี้ครับ
หน้าจอ 1080p ให้ปรับที่ 100%
หน้าจอ 1440p ให้ปรับที่ 75%
หน้าจอ 4K ให้ปรับที่ 50%
Capture
ตรงนี้ถ้าใครไม่ได้ใช้โปรแกรมอัดหน้าจอเช่น Instant Replay ของ NVIDIA ก็ไม่ต้องปรับอะไรก็ได้ครับแต่ถ้าอยากอัดวีดีโอตอนเล่นเกมไปด้วยให้ตั้งค่าเป้น WGC ส่วน Double Buffering ก็ปิดไว้ แต่ FPS ของเกมที่อัดออกมาเป็นวีดีโอจะเป็น FPS จริงที่ไม่ได้ใส่ Frame Generation เข้าไปนะครับ
Rendering
ตรงนี้แนะนำให้เปิด Vsync แบบธรรมดาไว้ครับภาพจะได้ไม่ขาด ส่วน Max Frame Latency ให้ตั้งเป็น 1 ส่วนที่เหลือเปิดให้หมดทั้ง (HDR Support, S-Sync Support, Draw FPS)
คุณภาพเทียบเท่ากับ Frame Generation ค่ายอื่นๆไหม
ถ้าตามทฤษฎีแล้ว Frame Generation ที่มากับการ์ดจอโดยใช้ AI จะได้คุณภาพที่ดีกว่าเพราะเป็นการสร้างเฟรมใหม่ขึ้นมาจากตัวเกมเลย แถมเกมต้องรองรับด้วยซึ่งต้องมีการเทรนการใส่ฟังค์ชั่นนี้เข้าไป ต่างกับ Lossless Scaling ที่เป็นการทำงานครอบทับตัวเกมไป ให้นึกถึงพวกการทำให้ภาพลื่นไหลที่มักใส่มาในทีวียุคปัจจุบันนั่นแหละครับคล้ายๆกัน แต่เอาตรงไอภาพแตกหรือภาพวุ้นที่คนเรียกกันมันโผล่มาช่วงเสี้ยววิเท่านั้นใครที่ไม่ใช่สายจับผิดจ้องหน้าจอคอมตลอดผมว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไรหรอกครับ

ใช้งานกับอย่างอื่นได้ไหม
Lossless Scaling สามารถใช้งานได้กับทุกโปรแกรมบนคอมพิวเตอร์เลยครับไม่จำกัดแค่เพียงเกม คุณสามารถเปิด Youtube และใช้ Lossless Scaling เพิ่มเฟรมเรทของวีดีโอให้ไหลลื่นกว่าเดิมหรือเปิดตัว Scaling ทำให้ภาพคมชัดขึ้นก็ได้เช่นกัน
ใช้ได้กับทุกเครื่องจริงๆหรือเปล่า
Lossless Scaling สามารถใช้ได้กับทุกเครื่องเลยครับไม่ว่าสเปคจะเป็นแบบไหนแต่ประสิทธิภาพที่ขับออกมาได้จะต่างกันไป จากที่สังเกตุและลองให้เพื่อนๆหลายคนลองดู ผมรู้วึกว่าถ้าใครยิ่งคอมแรง Lossless ยิ่งทำงานได้ดีครับ ยิ่งถ้าจอคอมพิวเตอร์รองรับ G-Sync ด้วยอีก ค่า Latency จะลดลงอย่างเห็นได้ชัดเลยครับ และทางทีมพัฒนาแนะนำมาว่าควรอัพเดตวินโดว์ให้ล่าสุดด้วยเพื่อประสิทธิภาพที่สูงสุด