รีวิว Venus Vacation Prism: Dead or Alive Xtreme
Story - เรื่องราวที่เรียบง่าย กับหัวใจอันแสนอบอุ่น (6.3)
เนื้อเรื่องของ Venus Vacation Prism: Dead or Alive Xtreme นั้น เรียบง่าย ตรงไปตรงมา และเข้าใจได้ง่ายดาย ผู้เล่นจะได้รับบทเป็นเจ้าของ (Owner) ของเกาะวีนัส ดินแดนสวรรค์เขตร้อนที่ฤดูร้อนไม่มีวันสิ้นสุด โดยมีมิซากิสาวน้อยพนักงานพาร์ทไทม์ผู้ขี้อายแต่กระตือรือร้น คอยให้ความช่วยเหลือในการเตรียมงานเทศกาลวีนัส เทศกาลแห่งการแข่งขันที่รวมเหล่าสาวงามผู้มากความสามารถไว้บนเกาะแห่งนี้
จุดเริ่มต้นของเรื่องราวมาจากการที่มิซากิได้เล่าถึงตำนาน "ฝนดาวตกปริซึม" ที่กล่าวถึงค่ำคืนอันแสนมหัศจรรย์ ซึ่งจะเป็นจุดเริ่มต้นของการผจญภัยที่เต็มไปด้วยความโรแมนติก และความประหลาดใจกับเหล่าสาวๆ วีนัสทั้ง 6 ได้แก่

- มิซากิ: พนักงานพาร์ทไทม์แสนขี้อายที่ดูเหมือนจะมีความรู้สึกพิเศษให้กับผู้เล่น
- ฟิโอน่า: เจ้าหญิงผู้ไร้เดียงสาที่ตกหลุมรักผู้เล่นตั้งแต่แรกพบ และพยายามอย่างเต็มที่เพื่อเข้าใกล้
- เอลิส: หัวหน้างานผู้สง่างามแต่เข้มงวด ที่ถูกส่งมาดูแลกิจกรรมต่างๆ บนเกาะ
- ทามากิ: ดีไซเนอร์แฟชั่นสาวสวยผู้มีเสน่ห์ อดีตนางแบบผู้ใส่ใจในความงาม
- โฮโนกะ: นักเรียนสาวสบายๆ ที่ดูเหมือนจะซ่อนความลับบางอย่างไว้ และเป็นตัวละครเดียวจากเกม Dead or Alive ภาคหลัก
- นานามิ: สาวสวยมาดเท่ เพื่อนสมัยเรียนมัธยมต้นของมิซากิ ที่ได้พบกับผู้เล่นโดยบังเอิญ
เนื้อเรื่องโดยรวมแทบไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ ตั้งแต่ต้นจนจบเกม หากผู้เล่นเคยสัมผัส Dead or Alive Xtreme: Venus Vacation มาก่อน จะคุ้นเคยกับฉากต่างๆ เป็นอย่างดี เพราะ Venus Vacation Prism นั้นเป็นการนำเอาเหตุการณ์จากเกมกาชาบนมือถือมาปรับปรุง เรียบเรียงใหม่ และเพิ่มเติมเนื้อหาเข้าไป การดำเนินเรื่องส่วนใหญ่จะมาจากการเลือกตัวเลือกในการตอบคำถาม ซึ่งจะมีผลต่อค่าความสนิทสนม (หัวใจ) ของเหล่าสาวๆ ผู้เล่นสามารถเลือกที่จะพูดคุยกับทุกคน หรือจะเน้นไปที่สาวๆ ที่ชื่นชอบเป็นพิเศษ ตัวเลือกในการโต้ตอบนั้นไม่ได้มีมากมายนัก และค่อนข้างชัดเจนว่าตัวเลือกใดเป็นการเอาใจ และตัวเลือกใดเป็นการตอบแบบธรรมดา

เกมมีเนื้อเรื่องทั้งหมด 18 Chapter และใช้เวลาเล่นประมาณ 12 ชั่วโมงในการเคลียร์ โดยในช่วง 13 Chapter แรก ผู้เล่นจะได้ทำความรู้จักและสร้างความสัมพันธ์กับสาวๆ เป็นหลัก หลังจากนั้นจะเป็นช่วงเวลาสำคัญที่ผู้เล่นต้องตัดสินใจเลือกสาวคนใดคนหนึ่งเพื่อนำไปสู่ฉากจบ และไม่ว่าจะเลือกใคร จุดหมายสุดท้ายคือการพาสาวคนนั้นไปสู่ตำแหน่ง Venus of the Venuses และได้ชมปรากฏการณ์ ฝนดาวตกปริซึมร่วมกัน (แอบกระซิบว่ามีฉากจบแบบฮาเร็มให้ปลดล็อกด้วยนะ!)
โดยรวมแล้ว แม้จะเป็นการ "ย้อมแมว" แต่เป็นการย้อมที่ทำออกมาได้ดีและมีเหตุผลมากขึ้น ทำให้เนื้อเรื่องดูดีและเข้าใจง่ายกว่าภาคก่อนหน้า สำหรับผู้ที่เคยเล่น Venus Vacation มาก่อน ภาค Prism นี้เหมือนเป็นการย้อนกลับไปสัมผัสความรู้สึกแรกพบกับเหล่าสาวๆ อีกครั้ง
Gameplay - เน้นปฏิสัมพันธ์ สร้างความผูกพัน (4.8)
ใน Venus Vacation Prism ผู้เล่นจะสวมบทบาทเป็นเจ้าของเกาะวีนัส โดยมีเป้าหมายหลักคือการสร้างความสัมพันธ์แบบโรแมนติกกับสาวๆ ทั้ง 6 ผ่านการเลือกตอบคำถามในสถานการณ์ต่างๆ ซึ่งจะส่งผลต่อความสัมพันธ์และเส้นทางการดำเนินเรื่องที่แตกต่างกันไป รูปแบบการเล่นจึงเน้นไปที่การเป็นเกมจีบสาว (Visual Novel) อย่างเต็มรูปแบบ และนอกจากบทสนทนาแล้ว เกมยังมีมินิเกมต่างๆ ที่เข้ามาเสริมสร้างความสัมพันธ์กับตัวละคร ได้แก่:

- ซูโม่มือ (Hand Sumo): กดปุ่มตามที่ปรากฏบนหน้าจออย่างรวดเร็ว เพื่อทำให้ตัวละครเสียสมดุล หากชนะ อาจเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่ผู้เล่นล้มทับตัวละคร
- การสาดน้ำใส่กัน (Water Fight): เลือกตัวละครสองคนมาสาดน้ำใส่กัน การเล็งไปยังส่วนต่างๆ ของร่างกายจะทำให้เสื้อผ้าเปียกและโปร่งแสง ซึ่งอาจส่งผลต่อเนื้อเรื่อง
- ซิทอัพ (Sit-ups): กดปุ่มตามจังหวะการซิทอัพของตัวละคร เพื่อให้กำลังใจและอาจได้เห็นฉากที่ใกล้ชิดมากขึ้น
- กระโดดเชือก (Long Jump Rope): กดปุ่มตามจังหวะการหมุนเชือก หากทำสำเร็จจะได้รับฉากพิเศษ

อีกหนึ่งฟีเจอร์เด่นคือ "โหมดถ่ายภาพ" ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นอย่างเห็นได้ชัดจาก Xtreme Venus Vacation ผู้เล่นสามารถปรับแต่งค่าต่างๆ ในกล้องได้อย่างอิสระ เช่น แสง ฟิลเตอร์ โฟกัส องศา และให้ตัวละครมองกล้อง อย่างไรก็ตาม ข้อจำกัดคือสามารถถ่ายภาพได้เฉพาะในช่วงคัตซีนหรือบทสนทนาเท่านั้น ซึ่งน่าเสียดายที่ไม่มีอิสระในการจัดวางท่าทางตัวละครเพื่อถ่ายภาพบนเกาะเหมือนในภาคก่อนหน้า การถ่ายภาพและแชร์ภาพถ่ายภายในเกมจะช่วยเพิ่มค่าความนิยมของตัวละคร และปลดล็อกชุดและทรงผมใหม่ๆ
เกมยังมี "ระบบสนทนาผ่านมือถือ" ซึ่งแม้จะมีข้อความซ้ำๆ บ้าง แต่เมื่อพูดคุยไปเรื่อยๆ ผู้เล่นจะสัมผัสได้ถึงเสน่ห์เฉพาะตัวของแต่ละคน สิ่งที่น่าสนใจคือเกมให้รางวัลแก่ "ความใส่ใจ" ของผู้เล่น หากเลือกตอบแบบขอไปที สาวๆ จะรู้สึกไม่ดีและห่างเหิน แต่หากวิเคราะห์อารมณ์และเลือกคำตอบที่เหมาะสม ผู้เล่นก็จะเข้าใกล้เส้นทางแห่งความรักมากขึ้น

โดยรวมแล้ว แม้เกมจะขาดความเข้มข้นด้านเกมเพลย์ แต่ในฐานะเกมจีบสาวที่สร้างมาเพื่อการผ่อนคลายและมอบความรู้สึกใกล้ชิดกับตัวละคร Venus Vacation Prism ก็ทำหน้าที่ได้อย่างสมบูรณ์แบบ สิ่งที่ผู้เล่นจะได้รับไม่ใช่แค่ภาพสาวสวยหรือชุดว่ายน้ำหวือหวา แต่เป็น "ช่วงเวลาส่วนตัว" กับตัวละครที่ค่อยๆ รู้จักและตกหลุมรักผ่านการโต้ตอบแบบเรียลไทม์ การเลือกคำพูด และความใส่ใจในรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ และแม้ว่าคุณจะไม่เคยเล่นเกมแนวนี้หรือเกมหลักของซีรีส์ Dead or Alive มาก่อน การได้สัมผัสเกมนี้จนจบอาจทำให้คุณรู้สึกผูกพัน จนไม่อยากจากเกาะแห่งนี้ไปเลย
Performance - งานภาพสวยงาม แต่ยังไม่สุด (8.0)
ภาพในเกมโดยรวมถือว่าทำออกมาได้ดี สิ่งต่างๆ บนเกาะวีนัสได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้นจาก Xtreme Venus Vacation โดยเฉพาะรายละเอียดของสภาพแวดล้อมและต้นไม้ แต่ในขณะเดียวกันก็ดูไม่ทันสมัยเท่าที่ควรเนื่องจากความไม่คมชัดของ Texture

จุดเด่นด้านกราฟิกอยู่ที่เหล่าสาวๆ ที่ได้รับการออกแบบมาอย่างพิถีพิถัน ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า ใบหน้า ทรงผม และผิวพรรณ รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ เช่น ผิวที่เปียกน้ำจากเหงื่อ กำไลข้อมือ หรือเม็ดทรายบนผิว ก็ถูกใส่ใจเป็นอย่างมาก การเคลื่อนไหวของตัวละครบางครั้งดูลื่นไหล แต่บางครั้งก็ดูแข็งทื่อ โดยเฉพาะอนิเมชั่นใบหน้าและการขยับริมฝีปากที่ยังไม่เป็นธรรมชาติ อย่างไรก็ตาม การนำฉากเปิดตัวจาก Xtreme Venus Vacation มารีเมกใหม่ในภาค Prism ทำออกมาได้น่าชื่นชม

โทนสีของเกมทำออกมาได้อย่างครบรสชาติ ตั้งแต่ความสดชื่นสดใสในตอนกลางวัน ความโดดเดี่ยวแต่อบอุ่นในช่วงเย็น ไปจนถึงบรรยากาศโรแมนติกในตอนกลางคืน ซึ่งช่วยให้ผู้เล่นมีอารมณ์ร่วมกับสถานการณ์ต่างๆ ได้มากยิ่งขึ้น และด้วยขนาดเกมที่ไม่ใหญ่มาก (ประมาณ 13 GB) และกราฟิกที่ไม่กินสเปคมากนัก ผู้ที่มีคอมพิวเตอร์สเปคไม่แรงก็สามารถสนุกกับเกมนี้ได้อย่างสบายๆ
Sound Design - ดนตรีไพเราะ เสียงพากย์คุณภาพ (8.0)
เพลงประกอบของ Venus Vacation Prism โดยรวมเป็นแนว J-Pop ผสม Chill Pop และ Electronic ที่ให้ความรู้สึกสดใส นุ่มนวล และฟังสบาย ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ช่วยเสริมสร้างบรรยากาศของเกมได้อย่างลงตัว เพลงประกอบมีความหลากหลายทั้งแนวเพลงและอารมณ์ เพื่อให้เข้ากับสถานการณ์และกิจกรรมต่างๆ ภายในเกม แม้จะยังไม่มีการเปิดตัวอัลบั้มเพลงประกอบอย่างเป็นทางการ แต่คาดว่ายังคงกำกับโดยคุณ Hiroaki Takahashi ผู้แต่งเพลงหลักของซีรีส์ Xtreme Venus Vacation ซึ่งทำออกมาได้ไพเราะและลื่นหูเป็นอย่างมาก
โดยเพลงที่น่าประทับใจ เช่น "Stallin" และ "Always Love You" การนำเพลงเก่าจากภาค Venus Vacation มาใช้ อาจเป็นการตั้งใจย้อนรำลึกถึงภาคเก่า หรืออาจเป็นเรื่องของการประหยัดงบประมาณ แต่โดยรวมแล้วเพลงประกอบของเกมนี้ถือว่ายอดเยี่ยมและน่าฟัง

ด้านเสียงพากย์ ตัวเกมทำได้ตามมาตรฐานของเกมญี่ปุ่นส่วนใหญ่ ทั้งอารมณ์และน้ำหนักของโทนเสียงที่แสดงออกมาพร้อมกับสีหน้าของตัวละครทำได้อย่างดีเยี่ยม ซึ่งเป็นผลมาจากการใช้นักพากย์เสียงชื่อดังมากมาย เช่น Minami Tsuda (มิซากิ), Ai Nonaka (โฮโนกะ), Saori Ōnishi (ทามากิ), Kaede Hondo (ฟิโอน่า), Miyuri Shimabukuro (นานามิ) และ Asami Seto (เอลิส)
ซึ่งล้วนเป็นนักพากย์ที่มีประสบการณ์และผลงานมากมายในวงการอนิเมะและเกม ซีรีส์ Dead or Alive Xtreme Venus Vacation ไม่เคยทำให้ผิดหวังในเรื่องของเพลงประกอบและเสียงพากย์
