ถ้าดูแค่ผิวเผินอาจจะคิดว่าเกม Atomfall กับ Fallout เป็นเกมแนวเดียวกันเพราะมีฉากหลังเป็นโลก Post-apocalyptic แถมยังอิงประวัติศาสตร์เหมือนกันด้วย
Ryan Greene ผู้อำนวยการฝ่ายศิลป์ของผู้พัฒนา Rebellion เข้าใจเป็นอย่างดีถึงการเปรียบเทียบกับเกม Fallout โดยจะโดนตั้งแต่เกมเปิดแน่นอน
“เมื่อคุณเล่นเกมนี้แล้ว คุณจะรู้ว่ามันไม่ใช่ Fallout แต่ใช่แล้ว เรารู้” Greene บอกกับสื่อข่าว IGN
หนึ่งในเจ้าของ Rebellion Developments อย่างคุณ Jason Kingsley แฟนตัวยงของเกม Fallout ดังนั้นมันจึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีความคล้ายคลึงกันอยู่บ้าง เพราะเมื่อพูดถึงการเอาชีวิตรอดในโลกหลังหายนะ Fallout ก็มักจะเป็นสิ่งแรกที่นึกถึง และพวกเขาก็ทำมันออกมาได้ยอดเยี่ยม มาก ๆ

แต่เอาจริงๆนั้น Atomfall นั้นไม่เหมือนกับ Fallout เลย โดยทาง IGN ได้ชี้ให้เห็นในเดือนสิงหาคมปีที่แล้วว่ามันน่าสนใจกว่า Fallout ขนาดไหน
“เมื่อคุณเล่นไปสักพัก คุณจะรู้สึกว่าเกมนี้มีจุดเด่นในตัวอย่างแน่นอน” Greene กล่าว พร้อมชี้ให้เห็นว่า Rebellion นั้นไม่ใช่ Bethesda แต่เป็นสตูดิโออิสระของอังกฤษที่อยู่เบื้องหลังแฟรนไชส์ Sniper Elite ที่ได้สร้างเกมที่มีความทะเยอทะยานเมื่อเทียบกับเกมอื่นๆ แต่เราไม่ได้พูดถึงประสบการณ์ระดับ Elder Scrolls หรือ Fallout”
“ความเป็นจริงก็คือ นี่คือแฟรนไชส์ที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก และเราเป็นเวอร์ชัน 1.0 และการที่เราถูกเปรียบเทียบแบบนี้ต้องขอบคุณเป็นอย่างมาก ที่มีใงานทำได้ถึงขนาดนั้น”
Greene กล่าวว่าโดยเฉลี่ยแล้วการเล่น Atomfall จะใช้เวลาประมาณ "25 ชั่วโมง" อย่างไรก็ตาม ผู้ที่เล่นจนจบสามารถเล่นได้นานกว่านั้นพอสมควร

“คุณจะฆ่าใครก็ได้หรือทุกคนก็ได้ถ้าคุณเลือก” กรีนยืนยันอีกว่า เกมนี้จะมีฉากจบหลากหลายแบบ Atomfall ไม่มีภารกิจหลักหรือภารกิจรองตามแบบฉบับ RPG ทั่วไป แต่ "มันเหมือนใยแมงมุมที่เชื่อมโยงเรื่องราวเข้าด้วยกัน" กรีนอธิบาย
ในทางกลับกัน คุณสามารถเล่น Atomfall ได้โดยไม่ต้องฆ่าใครเลย อย่างน้อย Greene ก็ "ค่อนข้างแน่ใจ" ว่าคุณทำได้ "ผมเล่นได้ประมาณเก้าชั่วโมงแล้ว อาจจะเกือบครึ่งทางด้วยความเร็วในการเล่นของผู้พัฒนาที่ค่อนข้างเร็ว และไม่ได้ฆ่าใครเลย" เขากล่าว "ผมค่อนข้างแน่ใจว่าคุณทำได้ และไม่มีการจำกัดการต้องฆ่าใครเลย"
ที่มา IGN