Niantic ผู้พัฒนาเกม Pokémon Go ได้บรรลุข้อตกลง ในการขายเกม Pokémon Go ให้กับ Scopely บริษัทผู้พัฒนาเกม Monopoly Go ด้วยมูลค่า 3.5 พันล้านดอลลาร์ โดยข้อตกลงนี้ ยังรวมถึงเกมอื่น ๆ ของ Niantic ที่พัฒนาโดยใช้ IP ภายนอก (Third-Party) เช่น Monster Hunter Now และ Pikmin Bloom ด้วย
Ed Wu รองประธานอาวุโสของ Niantic ฝ่าย Pokémon Go ยืนยันว่า ทีมพัฒนา Pokémon Go ชุดเดิม จะยังคงทำงานร่วมกับ Scopely ต่อไป เพื่อพัฒนาและให้บริการเกม โดย Scopely มีความเชื่อมั่นในวิสัยทัศน์ และเป้าหมายของ Pokémon Go ในการสร้างประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับผู้เล่น และจะให้การสนับสนุนทีมงาน รวมถึงจัดหาทรัพยากรที่จำเป็น เพื่อให้เกมสามารถเติบโตต่อไปได้ ทางด้าน Tim O'Brien ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายรายได้ของ Scopely กล่าวว่า Pokémon Go เป็นเกมที่ประสบความสำเร็จและมีเอกลักษณ์ในการเชื่อมโยงผู้คน ผ่านกิจกรรม Live Event ต่าง ๆ และ Scopely รู้สึกตื่นเต้น ที่จะได้ร่วมงานกับทีม Niantic
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ Scopely เคยถูกวิพากษ์วิจารณ์ ถึงการเพิ่มระบบ Monetization(การหารายได้จากผู้เล่น) ในเกมที่เข้าซื้อกิจการ เช่น Marvel Strike Force และ Star Trek Fleet Command ทำให้แฟน Pokémon Go บางส่วนกังวลว่าเกมอาจมีการเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางดังกล่าว
Wu กล่าวถึงประเด็นนี้ว่า Scopely ให้ความสำคัญกับการสร้างเกมในระยะยาวมากกว่าผลประโยชน์ในระยะสั้น และเห็นพ้องกับ Niantic ว่า Pokémon Go เป็นเกมที่พิเศษด้วยขนาด อายุ และชุมชนผู้เล่น จึงจำเป็นต้องรักษาเอกลักษณ์ของเกมไว้
ปัจจุบัน Pokémon Go มีผู้เล่นประจำ (Active Player) มากกว่า 20 ล้านคนต่อสัปดาห์ โดยเฉลี่ย 40 นาทีต่อวัน และประมาณครึ่งหนึ่งของผู้เล่นทั้งหมด เข้าเล่นเกมทุกวัน
สำหรับ Niantic จะแยกตัวออกไป เป็น Niantic Spatial เพื่อมุ่งเน้น Geospatial AI (เทคโนโลยี AR แผนที่) โดย John Hanke ผู้ก่อตั้ง Niantic จะยังคงเป็นผู้นำ และเกม Ingress กับ Peridot จะยังคงอยู่ภายใต้การดูแลของ Niantic
ที่มา eurogamer
