Kingdom Come: Deliverance 2 เกม Action RPG จาก Warhorse Studios กำลังสร้างยอดขายที่น่าประทับใจ โดยทำยอดขายเกือบ 2 ล้านชุด ในทุกแพลตฟอร์ม ภายในเวลาไม่ถึง 2 สัปดาห์ หลังจากเปิดตัว (โดยทำยอดขาย 1 ล้านชุด ตั้งแต่วันแรกที่วางจำหน่าย) ความสำเร็จนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของการพัฒนาเกมที่มีคุณภาพ ตามความเห็นของ Lars Wingefors ซีอีโอของ The Embracer Group บริษัทแม่ของ Warhorse Studios
Wingefors กล่าวว่า ความสำเร็จของ Kingdom Come: Deliverance 2 เป็นเครื่องยืนยันถึงแนวทางหลักของบริษัท ในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพออกสู่ตลาด ทีมงานที่มีความสามารถ จำเป็นต้องได้รับทรัพยากรและเวลาที่เพียงพอ ในการสร้างสรรค์ผลงานตามวิสัยทัศน์ เมื่อมีทีมงานที่เหมาะสม ความไว้วางใจซึ่งกันและกันนี้ จะส่งผลดีต่อทุกฝ่าย ทั้งผู้เล่น พนักงาน และผู้ถือหุ้น และเขามั่นใจว่า Embracer จะยังคงเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมเกม ในกลุ่มธุรกิจหลักต่อไป
คำกล่าวของ Wingefors ดูเหมือนจะเป็นเรื่องพื้นฐานที่ใคร ๆ ก็ทราบ แต่ในสถานการณ์ปัจจุบัน กลับกลายเป็นประเด็นที่น่าสนใจ เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมา มีกรณีที่ทีมพัฒนาเกมที่ได้รับการยอมรับ ถูกบีบให้ทำงานล่วงเวลา กับโปรเจกต์ที่ไม่ตรงกับความถนัด หรือความสนใจ จนท้ายที่สุด เมื่อเกมเหล่านั้นล้มเหลว สตูดิโอก็ถูกปิดตัวลง ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือ Daedalic Entertainment สตูดิโอในเครือ Embracer ที่เคยพัฒนาเกมผจญภัย 2D ได้ดี แต่กลับถูกมอบหมายให้พัฒนา The Lord of the Rings: Gollum ซึ่งเป็นเกม Action-Adventure ระดับ AAA และผลลัพธ์ก็ออกมาไม่ดีนัก ทำให้ Daedalic ต้องปลดพนักงานจำนวนมาก และเปลี่ยนรูปแบบการดำเนินธุรกิจ

Embracer Group เป็นหนึ่งในบริษัทเกมที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตการ Layoff ในอุตสาหกรรมเกม โดยมีการ Layoff พนักงาน และยกเลิกเกม Deus Ex ภาคใหม่ ซึ่งสร้างความไม่พอใจให้กับแฟนเกม หลังจากที่บริษัทได้ทุ่มเงินจำนวนมาก ในการซื้อกิจการสตูดิโอเกมหลายแห่ง เช่น Gearbox, Saber, Dark Horse Comics, Eidos Montreal และ Plaion
อย่างไรก็ตาม หากแนวคิดที่ว่า เกมที่มีคุณภาพ และได้รับการสนับสนุนอย่างเหมาะสม จะสามารถประสบความสำเร็จได้ ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าถูกต้อง ก็ถือเป็นเรื่องน่ายินดี และขอแสดงความยินดีกับ Warhorse Studios ที่ Kingdom Come: Deliverance 2 ประสบความสำเร็จอย่างสูง
Source : pcgamer