แฟนๆ Xbox ค่อนข้างคุ้นเคยกับการถูกทอดทิ้ง เมื่อพูดถึงเกมคอนโซล เนื่องจากนักพัฒนามักจะเลือก PlayStation ก่อน และค่อยพอร์ตเกมลง Xbox ในภายหลัง Stellar Blade, Final Fantasy 7 Rebirth, Rise of the Ronin และ Silent Hill 2 ล้วนเป็นเกม Third-Party จากปี 2024 ที่เลือกข้าม Xbox ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม แต่การไม่มี Black Myth: Wukong เวอร์ชัน Xbox นั้นสร้างความไม่พอใจมากที่สุด
เรารู้ว่า Black Myth: Wukong จะมาลง Xbox ในอนาคต แต่ปัญหาคือ เวอร์ชัน Xbox ถูกเลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนด โดยหลายคนคาดว่า Xbox Series S ที่มีสเปคต่ำกว่าเป็นสาเหตุ แม้ว่าผู้พัฒนา Game Science ไม่เคยยืนยันเรื่องนี้อย่างเป็นทางการ และมีการคาดเดาอย่างกว้างขวางว่า Black Myth: Wukong มีข้อตกลงพิเศษกับ PlayStation ซึ่งยิ่งถูกตอกย้ำด้วยคำแถลงที่น่าสงสัยจาก Microsoft เอง
กว่าสี่เดือนหลังจากเกมวางจำหน่ายบน PlayStation และ PC ดูเหมือนว่าในที่สุดเราก็ได้รับคำตอบอย่างเป็นทางการสำหรับการเลื่อน Black Myth: Wukong เวอร์ชัน Xbox แล้ว เนื่องจากผู้กำกับ เฟิง จี (Feng Ji) หรือที่รู้จักในชื่อ Yocar ได้ออกมาโทษ Series S อย่างตรงไปตรงมาในโพสต์ใหม่บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียจีน Weibo
ผู้กำกับ Black Myth: Wukong โทษหน่วยความจำ Series S เป็นเหตุให้ Xbox ล่าช้า
โพสต์ของ Yocar บน Weibo เป็นการตอบสนองต่อความสำเร็จอันน่าประทับใจของ Black Myth: Wukong ในงาน Steam Awards ประจำปีนี้ ซึ่งเกมคว้ารางวัลไปถึง 3 รางวัล รวมถึงรางวัลเกมแห่งปี จากการแปลโดยผู้ใช้ ResetEra Yocar อธิบายว่าเขา "รู้สึกตื้นตันเล็กน้อย" หลังจากเห็นรางวัลที่เกมได้รับ และสิ่งเดียวที่จะทำให้ปี 2024 สมบูรณ์แบบ คือการวางจำหน่ายเวอร์ชัน Xbox
Yocar กล่าวต่อไปว่า "หน่วยความจำร่วม 10G" ที่ใช้โดย Xbox Series S ทำให้การวางจำหน่ายเกมบนระบบนี้เป็นไปไม่ได้ "หากไม่มีประสบการณ์การปรับแต่ง (optimization) เป็นเวลาหลายปี" นั่นทำให้ข้อสันนิษฐานเรื่องข้อตกลงลับกับ PlayStation ตกไป และยืนยันสิ่งที่หลายคนเชื่ออยู่แล้ว นั่นคือ Series S กำลังสร้างปัญหาให้กับนักพัฒนาอีกครั้ง
Game Science ไม่ใช่ผู้พัฒนาเพียงรายเดียวที่มีปัญหากับ Series S ผู้พัฒนา Dune Awakening อย่าง Funcom อ้างว่าการทำงานกับระบบนี้ "เป็นความท้าทาย" ในขณะที่อดีตนักพัฒนา Naughty Dog และ Rocksteady ถึงกับหวังว่าคอนโซลนี้ "ไม่เคยมีอยู่จริง" ผู้พัฒนา Baldur's Gate 3 อย่าง Larian ถึงกับต้องตัดฟีเจอร์แบ่งหน้าจอ (split screen) ออกเพื่อให้เกมลง Series S ได้ ดังนั้น Game Science จึงไม่ใช่รายเดียวที่ต้องปวดหัวกับ Series S
