
Overview
Concord เกม Hero Shooter 5v5 มุมมองบุคคลที่ 1 จาก Firewalk Studio ภายใต้ร่มเงาของ PlayStation Publishing LLC เปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2024 บน PC และ PS5 ด้วยราคา 1,290 บาท แม้จะสร้างกระแสได้พอสมควรก่อนวางจำหน่าย แต่หลังจากผู้เขียนได้ใช้เวลากว่า 8 ชั่วโมงกับเกมนี้ ก็พบทั้งจุดที่น่าสนใจและจุดที่น่าผิดหวังปะปนกันไป บทความนี้จะนำเสนอประสบการณ์และความคิดเห็นของผู้เขียนที่มีต่อเกม Concord อย่างตรงไปตรงมา (ปัจจุบันเกมปิดไปแล้ว)
Story (3/10) - จักรวาลอันกว้างใหญ่ที่ยังเล่าไม่สุด
ตามสูตรเกมแข่งรถ เนื้อเรื่องไม่ใช่จุดขายหลัก ใน Test Drive Unlimited Solar Crown ผู้เล่นจะสร้างตัวละครและได้รับเชิญเข้าร่วมเทศกาลมอเตอร์สปอร์ต Solar Crown บนเกาะฮ่องกง พบปะสาวทรงเสน่ห์ (ที่ผู้เขียนเรียกว่า "ทรงเจ๊") ทดสอบรถเล็กน้อย จากนั้นก็เข้าสู่โลกกว้าง สามารถเลือกเข้าร่วมกลุ่ม Streets (เน้นสไตล์ข้างถนน) หรือ Sharps (เน้นความหรูหรา) มีบทสนทนากับ NPC บ้าง แต่ก็ไม่ได้มีเนื้อเรื่องที่น่าติดตามอะไร เรียกได้ว่ามีไว้ประดับเกมเท่านั้น
Gameplay (4/10) - ธรรมดาเกินไปสำหรับปี 2024
Concord นำเสนอรูปแบบการเล่นแบบ Hero Shooter 5v5 ที่ตัวละครแต่ละตัว (เรียกว่า Freegunner) มีความสามารถ ตำแหน่ง สกิล Active และ Passive ที่แตกต่างกันไป โหมดการเล่นที่มีให้เลือกก็ล้วนเป็นโหมดที่คุ้นเคยในเกมแนว Shooter ทั่วไป เช่น Takedown, Trophy Hunt, Area Control, Signal Chase, Cargo Run และ Clash Point ซึ่งเทียบได้กับโหมด Hardpoint, Kill Confirm, Domination หรือ Team Deathmatch ใน Call of Duty
ปัญหาหลักของ Concord อยู่ที่ความเชื่องช้าของเกมเพลย์ แม้ฉากจะมีขนาดกว้าง แต่ตัวละครกลับเคลื่อนที่ช้า สกิลการเอาตัวรอดต่ำมาก โดยเฉพาะท่าสไลด์ที่มี Cooldown นานหลายวินาที เมื่อโดนรุมจึงแทบไม่มีโอกาสรอด อีกทั้งมุมกล้องที่ปรับให้เห็นตัวละครเต็มตัวเมื่อใช้ท่าหลบหลีกก็สร้างความสับสนและทำให้หลุดโฟกัสได้ง่าย น่าเสียดายที่เกมไม่มีระบบ Regenerate Health ผู้เล่นจึงต้องพึ่งพาตัวละครสายสนับสนุนหรือเก็บยาตามฉาก ซึ่งก็ยิ่งตอกย้ำความเชื่องช้าของเกมเพลย์
Concord เน้นการเล่นแบบ Team Work มาก เพราะ TTK (Time to Kill) ค่อนข้างสูง บางครั้งกระสุน 1 แม็กกาซีนอาจไม่พอที่จะสังหารศัตรูได้ การเล่นแบบเกาะกลุ่มและใช้ประโยชน์จากสภาพแวดล้อมจึงเป็นสิ่งจำเป็น แต่การเน้น Team Work มากเกินไปก็อาจทำให้ผู้เล่นบางกลุ่มรู้สึกเบื่อหน่าย เพราะโอกาสที่จะโชว์เดี่ยวหรือสร้างช็อตเท่ๆ นั้นเกิดขึ้นได้ยากมาก อีกทั้งเกมยังไม่มีวิดีโอ Recap จบเกมเพื่อแสดงช็อตเด็ดของผู้เล่นอีกด้วย
ผู้เขียนมองว่าหากปรับขนาดแผนที่ให้เล็กลง เพิ่มความเร็วของเกม ปรับ TTK ให้เร็วขึ้น และเพิ่มลูกเล่นที่น่าสนใจมากกว่านี้ Concord อาจจะสนุกขึ้น แต่ด้วยเกมเพลย์ในปัจจุบันที่ดูเรียบง่ายและขาดความสร้างสรรค์ ก็ยากที่จะทำให้เกมนี้โดดเด่นท่ามกลางเกมอื่นๆ ในตลาด
อีกหนึ่งประเด็นที่ทำให้ Concord ไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควรคือการออกแบบตัวละคร แม้ว่าการเรียกร้องความเท่าเทียมและสิทธิทางสังคมจะเป็นเรื่องที่ดี แต่การนำเสนอใน Concord กลับดู "ยัดเยียด" และไม่น่าดึงดูด ตัวละครขาดเสน่ห์และความน่าจดจำ แม้จะมีความหลากหลาย แต่ก็ดูไม่น่าสนใจเท่าที่ควร การมีตัวละครที่สวย เท่ หรือน่ารักจะช่วยดึงดูดผู้เล่นได้มากกว่า ตัวอย่างเช่น Genji, D.VA, Hanzo หรือ Tracer จาก Overwatch ที่มีทั้งความเท่และน่าดึงดูด นอกจากนี้สกินของตัวละครใน Concord ก็ยังขาดความน่าสนใจ สกินระดับ Legendary บางตัวควรเป็นแค่สกินเริ่มต้นด้วยซ้ำ การออกแบบตัวละครที่ขาดเสน่ห์ส่งผลต่อยอดขายสกินและความนิยมของเกมโดยตรง
Firewalk Studio ใช้เวลาพัฒนา Concord ถึง 8 ปี แต่ผลลัพธ์ที่ออกมากลับเป็นเกมที่มีเกมเพลย์ที่ค่อนข้างล้าหลัง ดูเหมือนว่าทีมพัฒนาจะพยายามเดินตามรอยเท้าเกมดังในอดีต เช่น Overwatch, Titanfall 2 หรือ Doom (2016) แต่กลับล้มเหลวในการสร้างเอกลักษณ์และความโดดเด่นให้กับเกมของตัวเอง
Performance (8/10) - ลื่นไหล แต่มีบั๊กประปราย
ด้าน Performance ของเกมถือว่าทำได้ดี ลื่นไหล มีอาการเฟรมเรตตกบ้างเล็กน้อยเมื่อมีการใช้สกิลพร้อมกันหลายคน และมีอาการ Game Crash บ้าง แต่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว โดยรวมถือว่าสอบผ่านในแง่ของเกมแนว Hero Shooter
Sound Design (7/10) - ได้มาตรฐาน แต่ขาดความน่าจดจำ
Sound Design ของ Concord อยู่ในระดับมาตรฐาน เสียงบรรยากาศ เสียงอาวุธ และการต่อสู้ทำออกมาได้ดี สามารถแยกทิศทางของศัตรูได้ชัดเจนแม้ไม่ได้ใส่หูฟัง งานพากย์เสียงตัวละครก็อยู่ในเกณฑ์ดี แต่ดนตรีประกอบขาดความน่าจดจำ Mood & Tone ค่อนข้างซ้ำซากและไม่มีจุดพีคที่สร้างความตื่นเต้น