ในปี 2025 การปล่อยเกมยิง Multiplayer แบบ "ซื้อเล่น" และ "ออนไลน์เท่านั้น" ดูเหมือนจะเป็นการตัดสินใจที่ "มีความเสี่ยงสูง" เนื่องจากเราได้เห็นเกมประเภทนี้จำนวนมาก "ล้มเหลว" ไม่เป็นท่า แต่ Remedy ผู้พัฒนาเกมชื่อดังอย่าง Control และ Alan Wake มีแผนการที่แยบยล เพื่อทำให้แน่ใจว่า FBC: Firebreak เกม Multiplayer เกมแรกของพวกเขา จะประสบความสำเร็จ และไม่ "ดับ" เหมือนเกมอย่าง Concord หรือ XDefiant
FBC: Firebreak เกม Co-op FPS ที่ "มีเนื้อเรื่องอยู่ในโลกเดียวกับ Control" ได้ประกาศเปิดตัวอย่างเป็นทางการในเดือนตุลาคม 2024 แม้ว่า Firebreak จะเป็นเกม Multiplayer เกมแรกของ Remedy และ "ดูเจ๋งมาก ๆ" แต่นั่นอาจไม่เพียงพอที่จะรับประกันความสำเร็จ เพราะ Firebreak ซึ่ง "ไม่ใช่เกม Free-to-Play" กำลังก้าวเข้าสู่ตลาดที่มีการแข่งขันสูง และเต็มไปด้วยเกมยิง Free-to-Play ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก เช่น Marvel Rivals, Counter-Strike 2, Fortnite, Overwatch 2 และ Call of Duty: Warzone แต่ดูเหมือนว่า Remedy จะตระหนักถึงความท้าทายนี้เป็นอย่างดี และได้วางแผนที่จะทำให้ Firebreak "เข้าถึงได้ง่ายที่สุด" ตั้งแต่ Launch
ในการสัมภาษณ์ล่าสุดกับ GamesRadar ทาง Thomas Puha ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารของ Remedy ได้อธิบายว่า ทางสตูดิโอ "ต้องการลดอุปสรรคในการเข้าเล่น" ของ Firebreak เพื่อให้ผู้คนจำนวนมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ สามารถเข้าถึงและเล่นเกมนี้ได้ตั้งแต่วันแรก หนึ่งในก้าวสำคัญในการดึงดูดผู้เล่นให้มากขึ้นคือ FBC: Firebreak จะเปิดตัวบนทั้ง Game Pass และ PS Plus ภายในปีนี้
การทำเช่นนี้จะช่วยลดอุปสรรคในการทดลองเล่นเกม เนื่องจากผู้สมัครสมาชิก ของ Game Pass และ PlayStation Plus หลายล้านคนจะสามารถเข้าถึงเกมได้ แน่นอนว่า มันก็ค่อนข้างน่ากลัวอยู่เหมือนกัน เพราะผู้เล่นจำนวนมาก 'น่าจะ' อยู่ที่นั่นในช่วงเปิดตัว และเราหวังว่าเกมจะสามารถรองรับจำนวนผู้เล่นได้
Thomas Puha
"มันยังหมายความว่า จะมีเงินทุนสนับสนุน และการสนับสนุนด้านการตลาด สำหรับเกมจากทั้งสองฝ่าย ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อ Remedy เป็นผู้จัดจำหน่ายเกมนี้ด้วยตนเอง ในทุกแพลตฟอร์ม"
ส่วนสำคัญของแผนการป้องกันไม่ให้ Firebreak "ดับ" ภายในไม่กี่สัปดาห์หรือหลายเดือน เหมือนกับเกม Concord หรือ XDefiant คือการปล่อยเกมยิงที่กำลังจะมาถึงนี้ "ทั้งบน Steam และ Epic" เกม 2 เกมล่าสุดของ Remedy วางจำหน่ายเฉพาะบน Epic Games Store ดังนั้น นี่จึงถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญสำหรับสตูดิโอ และจะช่วย "เพิ่มจำนวนผู้เล่นที่มีศักยภาพ" ให้กับ Firebreak ตั้งแต่ Launch นอกจากนี้ Remedy ยังมีแผนที่จะขาย Firebreak ในฐานะเกมยิง "ราคาปานกลาง" ไม่ใช่เกมราคาเต็ม $60 หรือ $70 ซึ่งน่าจะช่วยให้เกมสามารถสร้างฐานผู้เล่น ได้เร็วขึ้นบน PC
สตูดิโอผู้สร้าง Alan Wake ยังมุ่งมั่นที่จะทำให้ Firebreak รองรับ "การเล่นข้ามแพลตฟอร์ม" (full cross-platform matchmaking) ระหว่างคอนโซลและ PC ได้อย่างสมบูรณ์
และอีกส่วนสำคัญของแผน Remedy คือการทำให้แน่ใจว่า FBC: Firebreak จะมี "ข้อกำหนดขั้นต่ำของระบบ" บน PC ที่ "สมเหตุสมผล" แม้ว่า Alan Wake 2 จะเป็นเกมที่ "สวยงามมาก" แต่มันก็ "กินสเปค" ทั้งคอมพิวเตอร์และคอนโซล และนำไปสู่ปัญหาด้านประสิทธิภาพ เป้าหมายของ Remedy คือ "หลีกเลี่ยง" ปัญหานั้นกับ Firebreak
"เราจะยังคงนำเสนอกราฟิกและเอฟเฟกต์ภาพที่ยอดเยี่ยม ทุกสิ่งที่คุณคาดหวังจาก Remedy แต่ในประสบการณ์ Multiplayer เช่นนี้ Framerate ก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน รวมถึงการตอบสนองของการควบคุม" Puha อธิบาย
แม้ว่าจะไม่มีการรับประกันว่า Firebreak จะสามารถประสบความสำเร็จในจุดที่เกมยิงออนไลน์อื่น ๆ จำนวนมาก "ล้มเหลว" แต่ก็เป็นเรื่องดีที่ได้เห็นสตูดิโอ "คิดอย่างรอบคอบ" และ "มองตามความเป็นจริง" เกี่ยวกับตลาดวิดีโอเกม มันคงจะดีไม่น้อย หากเราสามารถสันนิษฐานได้ว่าเกมที่ดีจริง ๆ จะขายดีเสมอ แต่น่าเสียดายที่ในความเป็นจริงแล้วมันไม่ใช่กรณีนั้น และ Remedy ดูเหมือนจะตระหนักถึงเรื่องนี้เป็นอย่างดี และกำลังพยายาม "ทำทุกอย่าง" เพื่อหลีกเลี่ยงการสร้างเกม Multiplayer ฟอร์มยักษ์ที่ "ล้มเหลว" อีกเกมหนึ่ง
FBC: Firebreak มีกำหนดวางจำหน่ายภายในปี 2025 บน PC, Xbox และ PlayStation
ที่มา : Kotaku
