หุ้น Electronic Arts (EA) ร่วง 17% นับเป็นการ "ร่วงหนักที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ของบริษัท" หลังรายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 3 ปี 2025 โดยสาเหตุหลักมาจาก "ยอดขายที่น่าผิดหวัง" ของเกม Dragon Age: The Veilguard
EA เปิดเผยว่า Dragon Age: The Veilguard "ขายได้เพียง 1.5 ล้านชุด" ซึ่ง "ต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 3 ล้านชุดขึ้นไป" อย่างมาก เมื่อเทียบกับ Dragon Age: Inquisition ภาคก่อนที่ "ขายได้ถึง 12 ล้านชุด" และ Anthem อีกหนึ่งเกมจาก Bioware ที่ถูกมองว่า "ล้มเหลว" ยัง "ขายได้ 2 ล้านชุดในสัปดาห์แรก"
นอกจาก The Veilguard แล้ว EA ยังระบุว่า "ยอดขายของ EA Sports FC 25 ก็ต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้" และส่งผลต่อการปรับลดการคาดการณ์ผลประกอบการประจำปี
การร่วงลงของราคาหุ้น 17% ทำให้ "มูลค่าตลาดของ EA หายไปประมาณ 6 พันล้านดอลลาร์" ส่งผลให้ "ราคาหุ้นอยู่ในจุดต่ำสุดในรอบ 12 เดือน"
ผลกระทบจากเหตุการณ์นี้ต่อ EA และแฟรนไชส์เกมดังยังคง "ต้องจับตามอง" แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่า "ทุกสายตากำลังจับจ้องไปที่ Battlefield ภาคใหม่" ซึ่ง EA เคยประกาศว่าจะ "เปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติมในช่วงต้นปี" และมีความเป็นไปได้ว่า "เกมจะวางจำหน่ายปลายปีนี้"
เมื่อต้นสัปดาห์ Battlefield "ตกเป็นข่าวดัง" หลังมีรายงานว่า "มีการใช้ภาพถ่ายสงครามกาซาในภาพคอนเซ็ปต์อาร์ต" ซึ่ง EA ยังไม่ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้
หุ้น EA ร่วงหนัก หลัง Dragon Age: The Veilguard และ EA Sports FC 25 ทำยอดขายได้น่าผิดหวัง ส่งผลให้มูลค่าตลาดหายไปมหาศาล อนาคตของ EA ยังไม่แน่นอน แต่ทุกสายตากำลังจับจ้องไปที่ Battlefield ภาคใหม่ ที่อาจเปิดตัวปลายปีนี้ ท่ามกลางกระแสดราม่าการใช้ภาพสงครามกาซา
Source : insider-gaming
