David Nibbelin ผู้กำกับ Cinematic ของเกม Assassin's Creed Shadows จาก Ubisoft ให้สัมภาษณ์กับ gamesradar ว่า เกมนี้ไม่ได้ถูกสร้างมาเพื่อเป็นสารคดีประวัติศาสตร์ ทำให้ทีมพัฒนามีอิสระในการปรับเปลี่ยนรายละเอียดบางอย่างของประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น
Nibbelin อธิบายว่า การทำงานกับซีรีส์ Assassin's Creed ทำให้ทีมงานไม่จำเป็นต้องเล่าเรื่องราวตามประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมทั้งหมด ตัวเกมไม่ได้จำลองทุกอย่างให้เหมือนจริงเป๊ะเหมือนภาพยนตร์อิงประวัติศาสตร์ยุคศักดินา เพราะ Assassin's Creed มีวิธีการนำเสนอประวัติศาสตร์ในรูปแบบเฉพาะตัว
เราไม่ได้พยายามนำเสนอประเทศญี่ปุ่นในมุมมองที่แข็งทื่อ เป็นทางการ หรือเหมารวมแบบสุดโต่ง มันไม่ใช่งานสารคดี เราอยากให้คุณได้สัมผัสประวัติศาสตร์นี้จริงๆ
นี่เป็นช่วงเวลาที่เหมาะที่สุดที่จะได้เห็นญี่ปุ่นในสองมุมมอง เพราะว่าในเกือบทุกฉากคัตซีน เราพยายามหาวิธีปรุงแต่งให้เห็นปฏิกิริยาที่แตกต่างกันของตัวละคร NPC ที่มีต่อคุณ ระหว่างซามูไรกับชาวบ้านจากแคว้นอิงะ ปฏิกิริยาของ NPC จะแตกต่างกัน และเราก็ได้ใส่รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้เข้าไป ทั้งคำพูด ท่าทาง หรือแม้แต่การมอง
David Nibbelin
เป้าหมายของทีมพัฒนาคือ การให้ผู้เล่นได้สัมผัสประวัติศาสตร์ผ่านเกม มากกว่าการนำเสนอข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์แบบตรงๆ โดยจะมีการสอดแทรกองค์ประกอบที่ทันสมัยเข้าไปบ้าง เพื่อสร้างความน่าสนใจและประสบการณ์ที่แตกต่าง
การมีตัวละครเอกสองตัวคือ Naoe และ Yasuke เป็นตัวอย่างของการเปิดมุมมองที่หลากหลายต่อประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น Nibbelin กล่าวว่า ปฏิกิริยาของตัวละคร NPC ในเกม (ตัวละครที่ไม่ใช่ผู้เล่น) จะแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับว่าผู้เล่นกำลังสวมบทบาทเป็นใคร ระหว่างซามูไรหรือชาวบ้านธรรมดา ซึ่งทีมงานได้ใส่รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้เข้าไปในบทสนทนาและท่าทางของ NPC
ทั้งนี้ เกม Assassin's Creed ภาคก่อนๆ ก็เคยมีการปรับเปลี่ยนเนื้อหาจากประวัติศาสตร์จริงมาบ้างแล้ว เช่น ฉากต่อสู้กับพระสันตะปาปาในภาค Brotherhood หรือการนำเสนอเรื่องราวตำนานเทพเจ้าในภาค Valhalla และ Odyssey
Source : gamesradar
