Nintendo สร้างความสับสนให้กับผู้เล่นต่างชาติ หลังประกาศว่า My Nintendo Store และ eShop ของญี่ปุ่น จะยุติการรับชำระเงินผ่านบัตรเครดิตที่ออกนอกประเทศญี่ปุ่น รวมถึงบัญชี PayPal ต่างประเทศ ตั้งแต่วันที่ 25 มีนาคมเป็นต้นไป
การเปลี่ยนแปลงนี้ส่งผลกระทบโดยตรงต่อเกมเมอร์นอกญี่ปุ่นที่นิยมซื้อเกมดิจิทัลจาก eShop ญี่ปุ่น เนื่องจากราคาอาจถูกกว่า หรือมีเกมที่ไม่มีจำหน่ายในภูมิภาคของตน รวมถึงผู้เล่นในประเทศที่ไม่มี eShop อย่างเป็นทางการ เช่น ไต้หวัน หรือไทยของเรา
แม้ Nintendo จะชี้แจงว่าเหตุผลของการจำกัดนี้คือเพื่อ "ป้องกันการใช้งานโดยมิชอบ" แต่ผู้เล่นและสื่อในญี่ปุ่นจำนวนมาก มองว่านี่อาจเป็นมาตรการป้องกันการเก็งกำไรเครื่องเกม Nintendo Switch 2 ที่กำลังจะวางจำหน่าย
เนื่องจากค่าเงินเยนที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่น มีความเป็นไปได้สูงที่ Nintendo จะตั้งราคา Switch 2 ในแต่ละภูมิภาคให้แตกต่างกัน เพื่อสะท้อนความแตกต่างของค่าเงิน ทำให้เกิดช่องว่างที่นักเก็งกำไรอาจฉวยโอกาส ซื้อเครื่องจากญี่ปุ่นในราคาที่ถูกกว่า แล้วนำไปขายต่อในประเทศอื่น
Shuntaro Furukawa ประธาน Nintendo เคยกล่าวไว้ในการประชุมผู้ถือหุ้นเมื่อเดือนมิถุนายน 2024 ว่าบริษัทกำลังพิจารณามาตรการป้องกันการเก็งกำไร โดยคำนึงถึงสถานการณ์และข้อจำกัดทางกฎหมายในแต่ละภูมิภาค ผู้เล่นชาวญี่ปุ่นจึงคาดการณ์ว่า การจำกัดการชำระเงินจากต่างประเทศครั้งนี้ เป็นหนึ่งในมาตรการดังกล่าว เพื่อป้องกันการนำเข้าเครื่องเกมที่ผลิตสำหรับตลาดญี่ปุ่นโดยเฉพาะ
อย่างไรก็ตาม ยังมีอีกหนึ่งสมมติฐานที่ว่า การเปลี่ยนแปลงนี้อาจเกี่ยวข้องกับกฎระเบียบใหม่ของรัฐบาลญี่ปุ่น ที่กำหนดให้ธุรกิจอีคอมเมิร์ซต้องใช้ระบบยืนยันตัวตนแบบ 3D Secure 2.0 ภายในสิ้นเดือนมีนาคม 2025 ซึ่งระบบนี้อาจมีปัญหากับบัตรเครดิตที่ออกในต่างประเทศ Nintendo จึงอาจตัดสินใจยกเลิกการรองรับบัตรต่างประเทศไปก่อนเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหา
ปัจจุบัน ยังไม่มีความชัดเจนว่าเหตุผลที่แท้จริงของการเปลี่ยนแปลงนี้คืออะไร แต่ผู้เล่นที่ได้รับผลกระทบ สามารถพิจารณาใช้บัตรเติมเงิน Nintendo eShop เป็นทางเลือกในการซื้อเกมดิจิทัลจาก eShop ญี่ปุ่น
Source : automaton-media
