Edward Snowden อดีตผู้รับเหมาของสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ (NSA) ซึ่งเปิดโปงเอกสารลับในปี 2013 เกี่ยวกับโครงการสอดแนมดิจิทัลของสหรัฐฯ ออกมาวิจารณ์การ์ดจอ Nvidia RTX 50-series รุ่นใหม่อย่างเผ็ดร้อน
Snowden เขียนบน Twitter ว่า "การคิดถึงแต่ผลประกอบการไตรมาสถัดไปอย่างไม่สิ้นสุด ทำให้แบรนด์ Nvidia กลายเป็น 'สินค้าเกรด F ในราคาเกรด S'" "5070 ควรมี VRAM อย่างน้อย 16GB, 5080 ควรมีรุ่น 24/32GB ส่วน 5090 ควรมีรุ่น 32/48GB ขึ้นไป การปล่อยการ์ดจอราคา $1,000 ในปี 2025 ที่มี VRAM เพียง 16GB ถือเป็นการผูกขาดและทำร้ายผู้บริโภค"
หลังจากเปิดโปงเอกสารที่เผยให้เห็นขอบเขตการสอดแนมดิจิทัลทั่วโลกของ NSA ต่อ The Intercept Snowden ได้ลี้ภัยไปยังมอสโก เพื่อหลีกเลี่ยงการดำเนินคดีในสหรัฐฯ และปัจจุบันอาศัยอยู่ที่นั่นกับครอบครัวในฐานะพลเมืองรัสเซียที่ได้รับสัญชาติ Snowden ยังคงเขียนและพูดคุยเกี่ยวกับประเด็นการสอดแนม ความปลอดภัยทางไซเบอร์ คอมพิวเตอร์ และการเมือง
หลายคนเห็นด้วยกับ Snowden โดยเฉพาะประเด็น RTX 5080 ที่มี VRAM เพียง 16GB ในราคา $1,000
ซึ่ง Dave James จาก PCG ได้วิจารณ์ในรีวิวว่าเป็นการ์ดที่ "ไม่น่าตื่นเต้นอย่างประหลาด" และมีการปรับปรุงประสิทธิภาพจากรุ่นก่อนเพียงเล็กน้อย หากไม่เปิดใช้งานเทคโนโลยี DLSS ส่วน RTX 5090 นั้นได้รับคำชมมากกว่า ทั้งในด้านประสิทธิภาพมาตรฐานและประสิทธิภาพที่เสริมด้วย AI แม้ว่าราคาจะเพิ่มขึ้น $400 จากรุ่น 4090
RTX 5070 รุ่นที่กำลังจะมาถึง สัญญาว่าจะมอบประสิทธิภาพระดับ RTX 4090* (เมื่อเปิดใช้งาน DLSS) ในราคา $550 แต่ VRAM เพียง 12GB นั้นน่ากังวล สมาชิกของ Digital Foundry ได้พูดคุยกันในวิดีโอล่าสุดว่า มันอาจจะเพียงพอสำหรับการเล่นเกมที่ความละเอียด 1440p ในตอนนี้ แต่จะเพียงพอหรือไม่ในอนาคต ผู้เขียนบทความนี้เองก็ใช้ RTX 3070 ที่มี VRAM 8GB ซึ่งตอนนี้แทบจะไม่พอสำหรับเกมระดับ AAA ที่ความละเอียด 1440p และกำลังพิจารณาอัปเกรดเป็น RTX 5070 Ti ที่มี VRAM 16GB แทน
การครอบงำตลาดของ Nvidia และธุรกิจ AI ทำให้บริษัทแทบจะแตะต้องไม่ได้ แม้ว่าการ์ดจอ 50-series จะดูเหมือนเป็นการผสมผสานที่หลากหลาย หลังจาก 40-series ที่ไม่น่าตื่นเต้น แต่การครอบงำนั้นอาจไม่แข็งแกร่งอย่างที่คิด RTX 5080 และ 5090 ขายหมดทันทีที่ร้านค้าปลีกในสหราชอาณาจักร แต่ก็ไม่ชัดเจนว่าเกิดจากความต้องการสูงหรือสินค้ามีจำนวนจำกัด ทำให้ Gamers Nexus มองว่าเป็นการเปิดตัวแบบ "paper launch" ในขณะเดียวกัน DeepSeek จากประเทศจีน ซึ่งอาจเป็นคู่แข่งของ OpenAI ก็สามารถลดมูลค่าของ Nvidia ลงได้มากกว่า $600 พันล้านดอลลาร์ ด้วยการประกาศโมเดล AI ใหม่ R1 ที่ต้องการพลังประมวลผล GPU น้อยกว่ามาก แต่ให้ผลลัพธ์ใกล้เคียงกับผู้นำตลาด
สิ่งที่อาจเปลี่ยนแปลงสถานการณ์สำหรับเกมเมอร์จริง ๆ คือการแข่งขันที่สม่ำเสมอจาก AMD และ/หรือ Intel ในขณะนี้ ดูเหมือนว่ายังไม่น่าจะเกิดขึ้น เพราะ RX 9070 ที่กำลังจะมาถึง ยังทำผลงานได้ไม่น่าประทับใจนักจากผลการทดสอบที่หลุดออกมา และ Battlemage การ์ดจอจาก Intel ก็ดูเหมือนจะพัฒนาไปในทิศทางที่ถูกต้อง แต่ก็ยังไม่ถึงขั้นพลิกโฉมวงการ
ที่มา pcgamer
